Experience Tastes of Spring at Jean Georges

เมื่อย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิ อากาศเริ่มอุ่น เราก็ชีพจรลงเท้านัดเพื่อนๆ นักชิมไปหาของอร่อยทานกันถึง New York City ร้านที่จะนำเสนอในครั้งนี้คือร้าน Jean Georges ซึ่งมีดีกรีถึง 3 Star Michelin


Jean Georges [EN]
รสชาติ ที่ตั้ง: 1 Central Park West New York, New York, 10023
Website : Jean Georges
เรื่อง : Mnemosyne
ภาพ : Mnemosyne+Jock
คุณภาพวัตถุดิบ
สุขอนามัย
ความคุ้มค่าราคา
สถานที่

ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ Trump International Hotel and Tower Jean Georges นั้น เป็นเชฟที่มีชื่อเสียงมานาน ในอดีตเคยเป็นเชฟที่โรงแรมชื่อดังในกรุงเทพฯ สิงคโปร์ และฮ่องกง นอกจากนี้ยังได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับอาหารไว้หลายเล่ม รวมถึงเคยร่วมงานกับเชฟชื่อดังอย่าง Paul Bocuse ที่เราได้ทำรีวิวไว้ก่อนหน้านี้ด้วย วันนี้แวะเข้ามาทานมื้อเที่ยงคนเลยไม่เยอะมาก เราได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นรับฝากกระเป๋าเดินทาง รับฝากโค้ทและนำไปนั่ง ประทับใจบริการตั้งแต่เริ่มทีเดียว บรรยากาศในร้านตกแต่งได้อย่างพอเหมาะ ต้องเรียกว่าหรูเรียบแบบคลาสิก เนื่องจากเป็นเวลากลางวัน เราจึงได้นั่งชื่นชมกับแสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ ที่เรียงรายอยู่รอบด้าน เมนูวันนี้เป็นเมนูต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่ทางร้านให้ชื่อว่า Tastes of Spring (128 USD ++) จุดเด่นที่แตกต่างก็คือการเลือกสรรวัตถุดิบ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผักผลไม้ตามฤดูกาล เช่น Artichoke, Asparagus, Avocadoและ Fiddlehead Ferns เป็นต้น

คราวนี้โชคดีได้เคล็ดลับจากนักชิมที่ลองมาแล้วว่า Egg Caviar นั้นอร่อยมากแบบพลาดไม่ได้ เราเลยใจป้ำยอมเสียค่า Supplement เพิ่มอีก 30 USD เพื่อขอให้สับเปลี่ยนกับ Caviar, Meyer Lemon and Crème Fraiche สั่งอาหารเสร็จขนมปังก็มาทันใด Sour Dough ที่นี่อร่อยถูกใจถึงขั้นต้องสั่งชิ้นที่สองทั้งๆ ที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะเก็บท้องไว้เพราะอาหารมีหลายคอร์ส ร้านนี้เค้ามี Sea Salt ให้ทานคู่กับขนมปังและเนยด้วย รอไม่นานนักเราก็ได้เปิดตัวมื้อนี้ด้วย Amuse-bouche ที่มากระตุ้นต่อมรับรสให้เริ่มทำงาน ก่อนจะเริ่มทานอาหารในคอร์ส Complementary Amuse-bouche สำหรับวันนี้เป็นซุป Avocado รสชาติหอมมัน มาพร้อมกับปลาดิบ เข้ากันดีกับรสอ่อนๆของซอส rhubarb ทำให้จานนี้เป็นจานเบาๆ ทานสบายๆ ข้างๆ ยังมี Puff ชิ้นเล็กๆ น่ารัก มาให้ทานเป็นเครื่องเคียง

จากนั้นจึงเป็นจานแรก ซึ่งถ้าตาม Tasting Menu ก็จะเป็น Caviar Meyer Lemon พระเอกหลักของจานแน่นอนว่าต้องเป็น Caviar คุณภาพเยี่ยม ได้รสเปรี้ยวสดชื่นของ Mayer Lemon และรสนุ่มนวลของ Crème Fraiche มาเป็นตัวประกอบเสริมราศี ส่วนคนที่สั่งเป็น Egg Caviar ก็ไม่ผิดหวัง ถึงแม้จะเป็นแค่ไข่ฟองเล็กๆ ฟองเดียว แต่ก็สามารถทำออกมาได้ smooth & silky จนคนทานแทบละลาย ส่วน Caviar ชั้นเลิศที่มาด้วยกันรสออกเค็มนิดๆ กินกับไข่แล้วเข้ากันสุดๆ งานนี้ถึงจะแสนแพงแต่ก็ถือว่าคุ้ม ถัดจากจานไข่สุดประทับใจก็เป็นปลา Hamachi เสิร์ฟมาคู่กับซอส Avocado ที่หยดมากลมๆ น่ารัก ด้านบนประดับด้วย Radish กองโต อีกหนึ่งผักตัวแทนฤดูใบไม้ผลิ ที่ได้มาอวดโฉมในวันนี้ เมนูถัดมาเป็น Goat Cheese Gnocchi ตัว Gnocchi สีเหลืองอร่ามส่งกลิ่นหอมกรุ่นมาแต่ไกล พอตักเข้าปาก ตัวชีสก็ละลายทันทีกลายเป็นรสชาติแทรกซึมอบอวลอยู่เต็มปากเต็มคำ ชีสที่เลือกมารสออกนวลๆ ไม่จัดจ้านน่ากลัวเหมือน Goat Cheese ทั่วไป รสสัมผัสนุ่มๆถูกทำให้ สมดุลด้วยหอมทอดกรอบๆที่โรยมาด้านบน จานนี้ทำให้แปลกใจเล็กน้อย ด้วยความที่เห็นว่าเป็น Gnocchi เราก็เลยเคยชินและคาดหวังกับรสสัมผัสที่จะต้องหนึบหน่อยๆ ปรากฏว่าว่าเจ้า Goat Cheese Gnocchi นี่เป็นชีสล้วนๆ ที่สู้อุตส่าห์ตั้งชื่อว่าเป็น Gnocchi นั้น กลับสิ่งเดียวที่เหมือน Gnocchi คือรูปทรง ต่อด้วย Skate หรือ ปลากระเบน ซึ่งปลากระเบนนี่ปกติทำให้อร่อยสุกพอดีค่อนข้างยาก เคยไปทานบางร้าน ทำจนสุกเกิน เลยเหนียวจนทานไม่ได้ต้องส่งคืน แต่ Skate ของที่นี่ทำออกมาได้พอดีมากๆ ไม่มีพลาด เนื้อปลานุ่มกำลังดี รสชาติอ่อนๆ เข้ากันกับผักช่วงฤดูใบไม้ผลินานาชนิด ส่วนตัวชอบ Artichoke กับ Fiddle Head Fern ของจานนี้เป็นพิเศษ อีกอย่างที่ถูกใจคือ Crouton กรอบๆ ที่ใส่มาด้วย ซึ่งเป็นตัวช่วยเพิ่มรสสัมผัสกรุบกรอบให้จานนี้ได้มากขึ้น ตัดกับผักและปลาที่ออกไปทางนุ่มๆ เสียหมด ผ่านไปหลายจานคนทานก็เริ่มอิ่ม แต่ที่สั่งมายังไม่หมดเพียงเท่านั้น จานหลักจานสุดท้ายเป็นLamb เนื้อแกะ ทำออกมาได้สุกพอดีมากๆ เนื้อชุ่มฉ่ำ รสชาติเข้มข้น สีเนื้อข้างในยังเป็นสีชมพู เรียกว่าเก็บรายละเอียดกันทุกจุด ส่วนผงด้านบนนั้นเป็น Crouton Crumble แสนกรอบ เป็นรสออกแนวๆ ขนมปังกระเทียม ผักข้างๆ ที่จัดแต่งมาเสียสวยงามก็ทานแล้วสดชื่น สร้างความสมดุลกับเนื้อและ Crouton ที่ออกเค็มทั้งคู่ งานนี้ยอมยกนิ้วให้เลยว่าเป็นหนึ่งในแกะที่อร่อยที่สุดที่เคยทานเลยทีเดียว

อิ่มอร่อยไปกับจานหลักแล้วก็มาถึงของหวานกันบ้าง วันนี้ รายการคือ Rhubarb Tasting ซึ่งก็เป็นจาน Tasting สมชื่อเพราะทำมาให้ชิมกันถึงสี่ชนิด ตั้งแต่ น้ำ Rhubarb เย็นชื่นใจที่มากับ Fritter กรอบๆ ถัดมาเป็น Rhubarb Jelly ห่อไอศกรีมวานิลา ซึ่งนับเป็นเทคนิคในการทำที่คาดไม่ถึง ด้านบนเป็น Caramelized Rhubarb ที่ฝานมาบางเฉียบ ทานกับผลไม้หั่นชิ้นเล็กๆ กับซอส Rhubarb ที่ให้มาด้านข้าง อร่อยมากมาย อีกจานเป็น Rhubarb Crumble ไอเดียแนว Apple Crumble และสุดท้าย Rhubarb Pie แป้งพายที่นี่ออกนุ่ม ด้านบนโรย Icing ด้านในเป็นครีมเนื้อข้นแต่รสชาติไม่หวานจัด สี่จานสี่สไตล์ ลูกเล่นแพรวพราวไม่ใช่น้อย ก่อนจบยังมีขนมเล็กๆน้อยๆ มาแถมอีก ตั้งแต่ Marshmallow ที่ยกมาทั้งไห มาตัดกันให้ดูสดๆตรงหน้า ชิ้นเล็กๆพอดีคำ ตักเข้าปากแล้วนุ่มละลาย อีกอย่างที่ให้คะแนนเต็มไปเลยก็คือ Macaron Yuzu รสอมเปรี้ยวของส้ม Yuzu นี่เหนือชั้นมาก ตัวฝา Macaron ก็กรอบ อร่อยไม่แพ้ของ Laduree สุดท้าย ท้ายสุดของจริงคือ Chocolate Truffle ก้อนเล็กๆ น่ารัก ที่พวกเรากลับเกี่ยงกันขอไม่ทานเพราะอิ่มเต็มที่แล้ว

ด้วยความที่ร้านนี้มี 3 star Michelin เป็นประกัน แถมทำมาได้อร่อยสมศักดิ์ศรี คนชิมเลยไม่รู้จะหาอะไรมาติ นับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่แสนประทับใจ ใครมีโอกาสไป New York City แล้วอยากกระเป๋าเบา ท้องหนัก และอิ่มใจ ก็ขอแนะนำให้ไปลองกันดูค่ะ



Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview
Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview
Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview
Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview
Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview
Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview
Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview Jean Georges Preview